"ปราจีนบุรี"เพื่อนบ้านตะโกนลั่น!!ฝ่าสายฝนเห็นไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง

วันที่ 28 ตค.2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าที่บ้านนาคำ ม.1 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลังท่ามกลางฝนตกหนักตะโกนบอกเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงให้ออกมาช่วยดับไฟและแจ้ง อบต.ขอรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟ ต้นเพลิงเกิดจากบ้านเลขที่62 ม.1 เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงสองชั้น 

ขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไปช่วยงานที่วัดใกล้บ้าน ลูกๆออกไปทำงานปิดบ้านทิ้งไว้ อบต.บ้านนาส่งรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟท่ามกลางสายฝนใช้เวลาดับเพลิง10นาทียังสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังจากได้ยินเสียงตะโกนไฟไหม้บ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันพากันออกมาช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถเก็บข้าวของออกจาก บ้านได้เนื่องจากไฟลุกไหม้บ้านทั้งหลังแล้ว

ป้าสมร เฉลิมศรี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเวลา10.50น.นั่งอยู่บนบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ 30 เมตร เห็นไฟและควันลุกขึ้นท่วมบ้านตอนแรกคิดว่าใครเผาขยะอะไร แต่มองดูแล้วไม่น่าจะใช่เป็นการเผาขยะจึงตัดสินใจเดินลงมาดูพบว่าไฟไหม้บ้านของนายบุญยืนหมดทั้งหลังแล้ว  ตนเองได้ตะโกนบอกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันให้ออกมาช่วยกันดับไฟ ตะโกนร้องเรียกอยู่นานไม่มีใครได้ยินเพราะว่าขณะนั้นมีฝนตกลงมาทุกคนอยู่แต่ในบ้านกันหมด เพื่อนบ้านที่ได้ยินและออกมาดูจึงอะโวยวายและช่วยกันสาดน้ำดับไฟแต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้เนื่องจากไฟไหม้บ้านเป็นเวลานานแล้ว ต่อมารถดับเพลิงของอบต.ได้มาช่วยฉีดน้ำควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไหม้บ้านที่อยู่ติดกัน

ลุงบุญยืน พืชเพียร เจ้าของบ้านกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ออกไปช่วยงานที่วัดข้างบ้านส่วนลูกๆออกไปทำงานกันหมดโดยปิดบ้านทิ้งไว้ มาทราบอีกทีมีเพื่อนบ้านไปบอกว่าบ้านถูกไฟไหม้หมดแล้ว จึงรีบกลับมาดูบ้าน พบเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.กำลังช่วยกันดับไฟ สาเหตุไฟไหม้บ้านน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดจงวรค่าเสียหายหลายแสนบาท

ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ต่อชนโจ๊ก มันไม่ใช่แค่เดิมพันเก้าอี้ ผบ.ตร.แล้ว มันคือเดิมพันชีวิต ใครรอดก็ผงาด ใครทรุดก็คุกไป สิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยงานนี้

สุดสยอง! ลูกชายฟันคอแม่ขาด ต่อหน้าพี่น้อง ซ้ำหิ้วหัวไปสับทิ้ง ชาวบ้านรุมจับส่ง ตร.

ชาวบ้านเดือดร้อน !!ร้องผ่านสื่อ วอน บริษัทแร่ชี้ แจงหวั่น ผลกระทบสิ่งแวดล้อมชุมชนพื้นที่ ต.แม่รำพึง จ.ประจวบคีรีขันธ์