เดือด!! ลูกบ้านโครงการ​ลุมพินี​แจ้งวัฒนะ​ ร้องที่ดินสอบ พิรุธผู้จัดสรรโครงการส่งใบแจ้งข่มขู่ระงับ จดสิทธินิติกรรม​ โวยไม่ได้มาตรฐาน​ตามแบบ


  วันที่​ 20 ธันวาคม​ พ.ศ.2567​ เวลา 09:00 น.
แกนนำตัวแทนลูกบ้านพร้อมทนายความ สมาชิกลูกบ้านหมู่บ้านลุมพินีทาวน์วิลล์ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ ยื่นข้อร้องเรียนต่อ เจ้าหน้าที่จัดสรรที่ดิน กรมที่ดิน สาขา ปากเกร็ด ว่าโครงการหมู่บ้านลุมพินีฯ ที่บริหารงานโดยบริษัท พรสันติ จำกัด ดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน สาธารณูปโภค ถนนทางในหมู่บ้านสร้างไม่ตรงแบบ รางน้ำหรือรางวีรวมถึงฝาท่อน้ำทิ้ง กำแพงหมู่บ้านไม่ได้มาตรฐาน 

     การจัดเก็บค่าส่วนกลางไม่เป็นธรรม การบริหารเงินค่าส่วนกลาง อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ทาง บ.พรสันติ ที่เป็นฝ่ายบริการนิติชุมชนไม่มีการชี้แจงเรื่องรายละเอียด การใช้จ่ายและชี้แจงเป็นเอกสารให้ลูกบ้านได้ทราบแต่อย่าง อีกทั้งยังออกใบค่าทวงหนี้ส่วนกลาง​และ มีการออกหนังสือแจ้งขู่ ฟ้องดำเนินคดีระงับสิทธิ์ต่างๆ"เชิงเอกสารต่อลูกบ้านผู้อยู่อาศัยว่าถ้าไม่จ่ายภายใน 15 วันจะทำการตัดสิทธิ์ระงับจดแจ้งนิติกรรมต่างๆ และจะดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยมีข้อความระบุตามเอกสาร​ว่า 


    ทำที่ บริษัท พรสันติ จำกัด วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567 แจ้งอายัดการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และติดตามหนี้ค่าบริการสาธารณะค้าโครงการบ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์
เรียน  / ท่านเจ้าของบ้านเลขที่ 88/XX
อ้างถึง หนังสือแจ้งการชำระค่าบริการสาธารณะ
เลข66080000726609000072661200000072 หนังสือ ขอให้ชำระหนี้ค่าบริการสาธารณะค้างชำระ เลขที่ TV-CT/6610072 ฉบับลงวันที่ 27
ตุลาคม 2566ที่อ้างถึง ซึ่งปรากฏว่าหนี้ค่าบริการสาธารณะของท่านล่วงเลยกำหนดระยะเวลาชำระหนี้แล้ว ดังนั้น บริษัทแอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท พรสันติ จำกัด เจ้าของโครงการและผู้จัดสรรที่ดิน จึงขอเรียนมายัง ท่านเพื่อทราบว่าบริษัท จะดำเนินการแจ้งระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินจัดสรร บ้านเลขที่ 88/XX พื้นที่ 30.10 ตาราวา ต่อสำนักงานที่ดินที่มีเขตอำนาจ ทันทีเมื่อพ้นกำหนดระยะยะเวลา 15 วันนับแต่ท่านได้รับหนังสือฉบับนี้ และนับแต่วันที่บริษัทดำเนินการจดแจ้งการระงับการจดทะเบียนสิทธิฯ ท่านจะไม่สามารถทำนิติกรรมเพื่อขายหรือโอนที่ดินจัดสรรแปลงข้างต้นนี้ได้อีกจนกว่าผู้จัดสรรที่ดินได้รับชำระค่าบริการสาธารณะจากท่านครบถ้วน และแจ้งถอนการระงับการจดทะเบียนไปยังสำนักงานที่ดิน หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทดำเนินการแจ้งระงับการจดทะเบียนสิทธิฯ ต่อสำนักงานที่ดิน โปรดชำระที่ค้างชำระ นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2567 รวมเป็นเงินที่ต้องชำระจำนวน 8261 บาท (แปดพันสองร้อยหกสิบเอ็ดบาทถ้วน) ให้แก่ผู้จัดสรรที่ดินตามวิธีการ และช่องทางที่กำหนด พร้อมแจ้งการชำระให้แก่ทางบริษัททราบภายในนับแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าว บริษัทฯ ขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี อนึ่ง เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้นแล้ว บริษัทจะดำเนินการจดแจ้งระงับการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม พร้อมทั้งฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อเรียกเอาค่าบริการสาธารณะพร้อมกับดอกเบี้ยที่ค้างชำระต่อไปจึงเรียนมาทราบและโปรดดำเนินการ  ขอแสดงความนับถือ
( นายณัฐวรรธน์ ฉันทโภไคย )
ผู้จัดการฝ่ายกฎหมายนิติบุคคล
บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด
โปรดติดต่อ : คุณศุภเกียรติ ขาวขำ (ผู้จัดการฝ่ายบริหารชุมชน)
โทร. 090-880-5359

    ทั้งๆที่ยังมีประเด็นและข้อพิพาททางข้อกฎหมายกันอยู่ ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายของบริษัทพรสันติ ที่บริหารและกำกับฝ่ายนิติบุคคลหมู่บ้านเพื่อดูแล ประโยชน์สาธารณะ สาธารณูปโภคส่วนกลาง​หมู่บ้าน​และจัดทำจัดเก็บค่าส่วนกลางกับลูกบ้านที่ไม่ได้รับการดูแลและการปรับปรุงแก้ไขตามที่โฆษณาและตามสัญญาจะซื้อจะขายตามแบบการขอจัดสร้างโครงการ


    โดยลูกบ้านรวมถึงตัวแทน มองว่าการเสียค่าส่วนกลางที่ไม่คุ้มค่าและไม่เป็นธรรมกับการบริการของนิติบุคคลหมู่บ้านโดย บ.พรสันติ ยังส่อพิรุธในเรื่องการชี้แจงบัญชีรายรับรายจ่าย ของนิติบุคคลที่ไม่ได้รับการชี้แจงใดๆเลย จากบริษัทมาตั้งแต่ต้น เริ่มเปิดโครงการและจนจำหน่ายขายบ้านหลังสุดท้ายเพื่อที่จะทำการส่งมอบและจดแจ้งจัดตั้งนิติ อีกทั้ง ล่าสุดทางบริษัทได้ออกหนังสือแจ้งเพื่อให้ลูกบ้านชำระ เบี้ยค่าส่วนกลาง ตนเอง (ตัวแทน)​และลูกบ้าน ยังมองว่าเป็นการข่มขู่หรือไม่ 
     ทางตัวแทนลูกบ้าน ยังกล่าวอีกว่า ได้รับทราบว่า บ. พรสันติ ขายหลังสุดท้ายหมดเมื่อปี 2561 บริษัทได้เรียกเก็บลูกบ้านครั้งแรกในปี 2566 โดยนำเงินที่เก็บล่วงหน้ามาหักลบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในโครงการ ซึ่งทางโครงการไม่เคยมีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ตามที่ พรบ.จัดสรร กำหนดและไม่มีการเข้ามาดูแลลูกบ้าน ซึ่งลูกบ้านต้องดูแลกันเอง คอยประสานงานกับหน่วยงานภายนอกกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงโควิด บ. พรสันติ ไม่ได้เข้ามาดำเนินการใดๆในหมู่บ้าน โดยที่ บ. ได้คิดค่าบริหารงานเป็นจำนวนเงินถึง 40,000 บาท/เดือน โดยค่าบริหารดังกล่าวได้รวมค่าบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ภายในโครงการด้วย แต่พบว่าไม่ได้ดำเนินการดูแลรักษาอุปกรณ์ใดๆเกิดขึ้นความเสียหายขึ้นจริง 


     ยกกรณีตัวอย่างของกล้อง CCTV ที่ใช้งานไม่ได้ในปัจจุบัน ลูกบ้านจึงเห็นความไม่สมเหตุสมผลในการเรียกเก็บค่าบริการด้วยจำนวนเงินดังกล่าว เมื่อมีการเรียกเก็บค่าส่วนกลางย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562-2565 พบว่า บ.พรสันติ ไม่มีการแสดงใบเสร็จของบริการที่ได้ชำระค่าใช้จ่ายไปแล้ว เช่น ค่าไฟฟ้า ค่า รปภ. และค่าแม่บ้าน เป็นต้น แต่กลับมียอดเรียกเก็บลูกบ้านรวมทั้งโครงการมากกว่า 5 ล้านบาท รวมถึงมีหนังสือแจ้งอายัดการทำธุรกรรมการโอนบ้านของลูกบ้าน โดยที่ลูกบ้านได้ถูกเรียกเก็บค่าส่วนกลางเท่ากันทุกหลัง และเรียกเก็บด้วยระยะเวลาที่เข้าอยู่เท่ากันทั้งหมด แม้ลูกบ้านบางหลังมีการย้ายเข้ามาอยู่ไม่พร้อมกันกับแปลงหลังอื่น ซึ่งทำให้ลูกบ้านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้เงินบริหารด้านสาธารณูปโภคส่วนกลางดังกล่าว 

     ดังนั้นลูกบ้านจึงร้องขอให้ บ.พรสันติ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่เกิดขึ้นที่ได้เรียกเก็บกับทางลูกบ้าน  ร้องขอว่า ขอให้ บ.พรสันติ ดำเนินการให้ชัดเจนว่าจะมีวิธีการเรียกเก็บค่าส่วนกลางปี 2567 อย่างไร (ตามกฎหมายคือต้องเรียกเก็บเป็นรายเดือน) ลูกบ้านเคยเสนอขอให้ตั้งงบที่จะใช้งานเมื่อ ม.ค. 2567 เพื่อหาทางออกในการชำระค่าส่วนกลางร่วมกันแล้ว แต่ บ.พรสันติ ยังนิ่งเฉย ไม่มีการแจ้งกลับต่อลูกบ้าน และขอให้ บ.พรสันติ ตรวจสอบเรื่องถนนด้วยว่าจะมีการซ่อมแซม หรือดูแลถนนอย่างไร รวมถึงเรื่องของการว่าจ้าง รปภ. ทนายขอให้ บ.พรสันติ เสนอแผนที่ชัดเจนเพื่อที่ลูกบ้านจะได้ทำการจ่ายค่าส่วนกลางในปี 2568 บ.พรสันติ แจ้งว่า การเรียกเก็บค่าส่วนกลางดำเนินการตามสัญญาซื้อ – ขาย และได้ขอความเห็นจากลูกบ้านว่า ประสงค์จะให้เรียกเก็บแบบปันส่วนหรือไม่ 
    สำหรับเรื่องขออนุมัติซ่อมในโครงการนั้น ได้ทำเรื่องขออนุมัติไปแล้ว โดยแจ้งว่างบบางส่วนทางผู้จัดการชุมชนไม่ได้มีอำนาจอนุมัติ และไม่ได้มีงบสำหรับบำรุงดูแลรักษาภายในโครงการ ซึ่ง บ.พรสันติ กล่าวว่าอำนาจตรวจสอบเป็นของลูกบ้าน แต่อำนาจอนุมัติหรือตัดสินใจ ลูกบ้านต้องแจ้งเรื่องมาเป็นกรณีไป ทั้งนี้ ขอหารือกับผู้บริหารก่อนในเรื่องการจัดเก็บส่วนกลางของปี 2568

      ด้านเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน นาย นายต่อศักดิ์ ตั้งชัยรัตน์ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ได้เรียกตัวแทน ฝ่าย บ.พรสันติ  โดย นาย ศุภเกียรติ ขาวขำ ตำแหน่ง​ ผู้จัดการฝ่ายบริหารชุมชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและ พนักงานผู้รับผิดชอบ มาชี้แจง ประเด็นดังกล่าว พร้อมตัวแทนลูกบ้าน ร่วมกันตรวจสอบตามจุดต่างๆ ของหมู่บ้านตามที่ได้ยื่นข้อร้องเรียนไปโดยทางตัวแทน​ลูกบ้านสอบถาม​ นาย ศุภเกียรติ  ในประเด็น​ต่างต่อหน้าเจ้าพนักงาน​ที่ รวมถึงการตรวจสอบชี้แจงบัญชีรายรับรายจ่าย แต่นาย ศุภเกียรติ ก็ไม่มีการตอบและตอบชี้แจงเรื่องบัญชีไม่ได้ ทำให้ ตัวแทนและลูกบ้านเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกทั้ง นาย ศุภเกียรติ ยังได้กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นแค่ โครงการนี้โครงการเดียว ยังมีอีกโครงการ ซึ่งเป็นโครงการ ลุมพินีทาวน์วิลล์ ลาดปลาดุก อำเภอบางใหญ่ ก็ยังเป็นประเด็นเรื่องตรวจสอบบัญชี ที่ยังไม่ได้รับการชี้แจงอยู่เช่นกันและ ยอมรับว่ายังมีอีกหลายโครงการ

    นายต่อศักดิ์ (จนท.)​ยังกล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานกรมที่ดินดูแลรับผิดชอบในเรื่องการขอการจัดสรรที่ดิน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและได้ข้อยุติลง ตามระเบียบและข้อบังคับของกฎหมาย ว่าด้วย พรบ.จัดสรรที่ดิน และให้ฝ่าย บริษัท ซึ่งเป็นคู่พิพาทกับลูกบ้านผู้ซื้อโครงการ โดยข้อสรุป ให้ทางโครงการ ได้จัดทำและซ่อมแซม ตามระเบียบแผนผังโครงสร้าง ให้แล้วเสร็จต่อไป
 
   อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ทางทีมข่าว สำนักข่าว หนังสือพิมพ์ สยามชน จะเกาะติดสถานการณ์และจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

 Cr.สิทธิ​ สยามชน หัวหน้าผู้สื่อข่าว/ ภาคสนาม รายงาน​

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชนแล้วหนี"หญิงเมาควบเก๋งSUV"ชนคนแก่ออกกำลังกายริมฟุตบาท​เจ็บสาหัส​ ขาหักผิดรูป"

ชาวบ้านเดือดร้อน !!ร้องผ่านสื่อ วอน บริษัทแร่ชี้ แจงหวั่น ผลกระทบสิ่งแวดล้อมชุมชนพื้นที่ ต.แม่รำพึง จ.ประจวบคีรีขันธ์