"นายทุนหัวใส" นำที่ดินราชพัสดุไปจัดแบ่งล๊อคขายให้กับบุคคลต่างด้าวเกือบ100ไร่
องค์การสืบสวนการทุจริต (FIO) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่มและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค เข้าตรวจสอบพื้นที่ในหมู่ที่9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื่องจากมีขบวนการนายทุนหัวใส นำที่ดินของราชพัสดุไปจัดแบ่งล๊อคขายให้กับบุคคลต่างด้าวเกือบ100ไร่
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 องค์การสืบสวนการทุจริตโดยมีนายกิตติชัย หอมชื่นจิตร ประธานองค์การสืบสวนการทุจริต ภาค7 นายณชพล กฤตฐปนนท์ รองประธานภาค6ฝ่ายกิจการพลเรือน และนายจิรวัฒน์ จันทร์ชิต รองประธานภาค4อีสานตอนบนพร้อมด้วยคณะได้เดินทางมาที่องค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม เพื่อประสานขอความร่วมมือในการตรวจสอบพื้นที่ของขบวนการนายทุนในพื้นที่หมู่9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ที่มีการนำที่ดินของราชพัสดุไปจัดแบ่งล๊อคขายทั้งเงินสดและเงินผ่อน โดยการจัดแบ่งเป็นล๊อคละ100 ตารางวา และขายในราคาตั้งแต่100,000บาท จนไปถึงเกือบ200,000บาท ส่วนใหญ่เป็นบุคคลต่างด้าวที่มาซื้อ โดยนายทุนอ้างกับบุคคลต่างด้าวว่า ถ้าผ่อนหมดจะออกโฉนดที่ดินให้ แต่ถ้าจ่ายเงินสดก็จะออกโฉนดให้เลย และยังอ้างอีกว่าตนรู้จักกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการดูแลของทหาร ทำให้บุคคลต่างด้าวเกิดความหลงเชื่อ และแห่มาซื้อกันเป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ มีประชาชนร้องเรียนมาที่สำนักบรรณาธิการข่าวสังคมตำรวจ ว่ามีนายทุนจัดล๊อคที่ดินขายให้กับบุคคลต่างด้าว และต่างด้าวสามารถซื้อได้หรือไม่ หรือเป็นขบวนการต้มตุ๋น จากนั้นทางสำนักบรรณาธิการข่าวสังคมตำรวจ ได้ส่งสายข่าวลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลรอบด้านและหาข้อเท็จจริง ปรากฏว่ามีการกระทำตามที่ประชาชนร้องเรียนจริง และยังเป็นที่ดินของราชพัสดุ ซึ่งไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้
วันที่9มกราคม 2568 บรรณาธิการข่าวของสำนักได้ทำหนังสือถึง ดร.สุขอนันต์ วังสุนทร ประธานองค์การสืบสวนการทุจริต เพื่อตรวจสอบการกระทำของขบวนการดังกล่าวในครั้งนี้ ต่อมาทางดร.สุขอนันต์ วังสุนทร ได้มอบหมายให้ นายกิตติชัย หอมชื่นจิตร และทีมงานขององค์การสืบสวนการทุจริต ลงพื้นที่ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค และสำนักบรรณาธิการข่าวสังคมตำรวจ ระหว่างที่ทีมงานและเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่อยู่นั้น สายข่าวได้แจ้งเข้ามาว่า ขณะนี้มีการรื้อป้ายที่ติดประกาศขายที่ดินออก ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ริมถนน และยังมีรถมาขนต่างด้าวเพื่อหลบหนีจึงตั้งข้อสังเกตุได้ว่า มีคนในหน่วยงานราชการหน่วยใดรู้เห็นในขบวนการนี้ด้วยหรือไม่ เมื่อทีมงานไปถึงพื้นที่ดังกล่าวกลับไม่พบคนแม้แต่คนเดียวทิ้งไว้เพียงหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อพยพหลบหนีอย่างเร่งด่วนซึ่ง1ชั่วโมงก่อนหน้านี้มีคนเกือบ20คนร่วมกันสร้างบ้านอย่างขยันขันแข็ง
โดยทาง อบต.ลุ่มสุ่ม ได้ประสานไปที่ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ส่วนรับผิดชอบ แต่ผู้ใหญ่บ้านกลับส่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาแทน นางสาวนาตยา โพธิ์มี รองนายยก อบต ลุ่มสุ่มกล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบแล้วมีการจัดแบ่งล๊อคขายจริงและทาง อบต.จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่อีกส่วนทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นขบวนการหรือนายทุนร่วมกับคนในพื้นที่ด้วยหรือไม่ ผู้ช่วยตอบสั้นๆว่า มีหลายหุ้น และยังยืนยันอีกว่าได้แจ้งไปยังกลุ่มนายทุนดังกล่าวแล้วว่าจัดล๊อคขายแบบนี้ไม่ได้แต่ก็ยังมีการกระทำอยู่
ส่วนในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ทางองค์การสืบสวนการทุจริต ก็ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานให้กรมธนารักษ์แล้ว และทางกรมธนารักษ์กล่าวว่า ไม่สามารถลงตรวจสอบพื้นที่ด้วยตนเอง เนื่องจากดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของกองพล9 แต่ทางกรมธนารักษ์จะส่งหนังสือร้องเรียนและหลักฐาน ให้กับกองพล9อย่างเร่งด่วน เพื่อให้กองพล9ตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า ถึงเวลาที่หน่วยงานราชการต้องเรียกความชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมา และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น